การกำหนดแรงตึงผิว
สามารถใช้หมึกทดสอบในการกำหนดพลังงานพื้นผิว (OFE) / แรงตึงผิว (OFS) สำหรับของแข็งที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ อาทิเช่น โลหะ แก้ว เซรามิก เป็นต้น
ซึ่งจะเป็นการกำหนดความเป็นไปได้ในการยึดเกาะของพื้นผิวโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพิมพ์ การติดกาว การเคลือบสีโดยใช้ลักษณะการเปียก
ดำเนินการกำหนดแรงตึงผิวด้วยการแต้มหมึกทดสอบลงบนพื้นผิวที่จะประเมินเป็นเส้นยาวไม่กี่เซ็นติเมตรและการเฝ้าสังเกตลักษณะของเส้นหมึก
หากเส้นหดเข้าภายใน 2 หรือ 4 วินาทีตามคุณสมบัติเฉพาะของหมึก แสดงว่าแรงตึงผิวของพื้นผิวที่ทดสอบต่ำกว่าแรงตึงผิวของหมึกทดสอบ
ในทางตรงกันข้าม หากเส้นไหลออกจากกัน แสดงว่าแรงตึงผิวของหมึกที่แต้มต่ำกว่าแรงตึงผิวของพื้นผิว
หากเส้นยังคงไม่เปลี่ยนสภาพภายในเวลาการเฝ้าสังเกต แสดงว่าได้ค่าของแรงตึงผิวแน่นอนหรือสูงกว่าเล็กน้อย
ตัวอย่างการใช้งานนี้มีการใช้ก้านสำลีจุ่มหมึกทดสอบ PINK จากขวดขนาด 10 มล. ในการทดสอบ ใช้ก้านสำลีอันใหม่หลังจากการใช้ทุกครั้ง
ตัวอย่างการใช้งานนี้มีการใช้ปากกาทดสอบ PINK 38 Jumbo ในการทดสอบแรงตึงผิวบนวัสดุสังเคราะห์ PE สีดำ
ความสะอาดของชิ้นงาน
การให้รายละเอียดคำจำกัดความสำหรับความสะอาดและความบริสุทธิ์ของชิ้นงาน เนื่องจากมีชิ้นงานอยู่ที่พื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนขึ้นรูปหรือแผ่นฟิล์ม จึงสามารถใช้คำว่าความสะอาดได้ในที่นี่เพราะว่าความบริสุทธิ์ของชิ้นงานอาจจะอ้างอิงถึงโครงสร้าง กล่าวคือ โครงสร้างภายในของตัวชิ้นงานทั้งหมด
สิ่งสกปรกที่ชิ้นงานอาจมีหลายสาเหตุและแสดงให้เห็นในหลากหลายรูปแบบ จะสังเกตเห็นสิ่งสกปรกแบบอนุภาคขนาดเล็กและสิ่งสกปรกแบบชั้นเคลือบผิว แบบแรกจะเห็นเป็นจุดเดียวไม่สม่ำเสมอเรียงกันแบบเว้นระยะ จะสังเกตเห็นสิ่งสกปรกแบบอนุภาคขนาดเล็กและสิ่งสกปรกแบบชั้นเคลือบผิว แบบแรกจะเห็นเป็นจุดเดียวไม่สม่ำเสมอเรียงกันแบบเว้นระยะ
ในทางตรงกันข้าม สิ่งสกปรกแบบชิ้นเคลือบผิวจะครอบคลุมพื้นผิวทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และอาจอธิบายได้เป็นแบบสะอาดและบริสุทธิ์ ซึ่งน่าจะสอดคล้องกับคำจำกัดความนั้น ๆ เช่น แรงตึงผิว / พลังงานพื้นผิว
แต่ไม่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างภายในของชิ้นงานที่สามารถอธิบายได้ด้วยการใช้คำว่า ความบริสุทธิ์ เท่านั้น เนื่องจากเป็นพื้นผิวที่จะต้องดำเนินการแปลงสภาพต่อไปอีก จึงจำเป็นต้องกำหนดสภาพความสะอาดด้วย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วสามารถใช้คำว่า แรงตึงผิวได้
การแปลงสภาพ ได้แก่ การพิมพ์ การเคลือบสีและการติดกาว เป็นต้น กระบวนการดังกล่าวนี้ซึ่งเป็นวิธีแก้ปัญหาอย่างง่ายเป็นการทดสอบพื้นผิวด้วยหมึกทดสอบและการวัดการทำมุมของหยดน้ำ แบบแรกเป็นวิธีที่ใช้ได้ง่ายและนำไปปฏิบัติได้จริงเนื่องจากสามารถแต้มหมึกลงบนพื้นผิวทดสอบได้อย่างง่ายดายในระหว่างขั้นตอนการผลิต แบบหลังจำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่มีราคาสูง ซึ่งอาจจะแสดงส่วนประกอบของแรงตึงผิวเป็นแบบขั้วและแบบกระจายแยกกันได้
การทดสอบด้วยหมึกทดสอบจะแสดงเฉพาะผลรวมของค่าทั้งสอง ซึ่งเพียงพอต่อการประเมินพื้นผิว ไม่สามารถใช้กระบวนการทั้งสองโดยไม่สัมผัสหรืออย่างต่อเนื่องได้ แบบหลังหมายความว่า สามารถทำการวัดได้เฉพาะเมื่ออยู่ในสถานะไม่ทำงานสำหรับขั้นตอนการผลิต อาทิเช่น สำหรับแผ่นฟิล์ม
กล่าวคือ ไม่อยู่ระหว่างการดำเนินกระบวนการ ในกรณียกเว้น อาจดำเนินการวัดได้ที่ความเร็วต่ำมากเท่านั้น สามารถเลือกใช้ความสะอาดและความบริสุทธิ์ ซึ่งนำคำว่าความสะอาดมาใช้ได้กับพื้นผิวเท่านั้น อย่างไรก็ตามไม่ควรใช้คำดังกล่าวปนกันเนื่องจากอาจส่งผลให้เกิดการระคายเคือง
คำว่าการปรับสภาพขั้นต้น หมายถึงการทำความสะอาดพื้นผิวด้วยวิธีทางกลไก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชำระล้างที่ใช้หรือไม่ใช้สารละลาย การปรับสภาพขั้นต้นยังถูกนำมาใช้กับการบำบัดทางกายภาพด้วยโคโรนา พลาสม่าและเปลวไฟเป็นเวลานานสองสามทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งพื้นผิวจะเปลี่ยนไปเนื่องจากผลกระทบทางไฟฟ้าในลักษณะที่สัดส่วนแบบขั้วเพิ่มขึ้นอย่างมาก การทำเช่นนั้นจะเพิ่มแรงตึงผิวและปรับปรุงความสามารถในการยึดเกาะได้อย่างมาก
ตัวอย่างเช่น วัสดุสังเคราะห์ที่ทำจากโพลีโอเลฟินซึ่งมีค่าแรงตึงผิวตามธรรมชาติอยู่ที่ 30 mN / m สามารถทำการปรับไปที่ค่าสูงกว่า 45 mN / m ได้อย่างง่ายดายซึ่งให้ค่าการยึดเกาะที่ดีมากสำหรับการพิมพ์ การติดกาวและการเคลือบสี กระบวนการทำความสะอาดแบบเดิมไม่มีทางจะช่วยให้บรรลุค่าดังกล่าวนี้ซึ่งจะเห็นได้ว่าการทำความสะอาดล่วงหน้าด้วยวิธีทางกลไกเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการปรับสภาพขั้นต้นด้วยกระบวนการทางกายภาพ
วิธีการนี้ใช้ได้กับพื้นผิวโลหะซึ่งมีสิ่งสกปรก เช่น น้ำมันหล่อลื่น เป็นต้น ที่งนำไปใช้ในการผลิตแผ่นฟิล์มหรือชิ้นส่วนขึ้นรูป